googleca9db13d132b9d4f.html 0864407089

เช็ครถให้พร้อมก่อนเข้าหน้าฝน

หน้าฝนอีกครั้ง ฤดูที่หลายคนนั้นไม่ชอบเอาซะเลย เพราะจะเดินทางไปที่ไหนก็ไม่สะดวกไปเสียหมด ยิ่งวันไหนที่ฝนตกหนักๆ ก็ยิ่งทำให้รถติด แถมยังมีน้ำท่วมขังบนถนน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าหากว่ารถของคุณขาดการดูแลเอาใจใส่

เราจึงนำเอาเช็คลิสต์สุขภาพรถ ให้พร้อมใช้งานในช่วงหน้าฝนมาแนะนำให้กับคุณ ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน รถของคุณก็จะไม่ทำให้คุณต้องลำบากอีกต่อไป...

1.ที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝนใช้สำหรับการปัดเอาสิ่งที่มาขัดขวางทัศนวิสัยออกไป โดยเฉพาะของเหลวอย่างน้ำโคลน หรือน้ำฝน ซึ่งถ้าเกิดว่าวันไหนที่ฝนเกิดตกขึ้นมาแล้วคุณพบว่าที่ปัดน้ำฝนนั้นเกิดปัญหาขึ้น ก็จะทำให้การมองเห็นบนท้องถนนแย่ลงได้ มาดูกันว่าที่ปัดน้ำฝนมีวิธีการดูแลยังไงบ้าง

 

  • ยางปัดน้ำฝนควรเปลี่ยนทุก 1 ปี
  • เมื่อเปิดใช้ที่ปัดน้ำฝนแล้วมีคราบน้ำเป็นเส้น ๆ หรือปัดแล้วไม่สะอาด นั่นคือยางเสื่อมสภาพแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่ยางปัดน้ำฝนใหม่
  • มีเสียงดังเกิดขึ้นในขณะที่ปัดน้ำฝน เป็นสัญญาณที่บอกให้เปลี่ยนยางปัดน้ำฝนได้แล้ว เนื่องจากยางเสื่อมสภาพเช่นเดียวกัน

.

2.ยางรถยนต์

บนพื้นถนนเวลาฝนตกหนักมักจะมีน้ำท่วมขังหรือผิวของถนนลื่นกว่าปกติ จนอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ จึงควรเช็คสภาพยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน โดยสามารถทำได้เบื้องต้นได้ดังนี้

  • ใช้เล็บจิกไปที่ยาง หากยังจิกเข้าอยู่ก็ยังถือว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ปกติ
  • ดูที่ดอกยางหรือหน้ายาง รวมถึงร่องยางว่ามีการสึกหรือไม่ โดยหน้ายางจะต้องลึกไม่น้อยกว่า 3 – 4 มิลลิเมตรเป็นอย่างต่ำ
  • เรื่องลมยางก็มีความสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของการขับรถในหน้าฝน อาจต้องเติมลมยางมากกว่าเดิมไปอีก 2 – 3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

***หากจำเป็นที่จะต้องขับรถในช่วงหน้าฝนที่สภาพยางไม่พร้อม คุณควรที่จะขับรถในความเร็วที่ต่ำลงเพื่อยืดอายุการใช้งานของยาง และยังช่วยลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นขณะขับรถในช่วงที่ฝนตกด้วย
***นอกจากนี้ยังควรตรวจเช็คยางอะไหล่ของรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เผื่อในกรณีฉุกเฉินยางรั่ว ยางแตก ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์แบบเร่งด่วน จะสามารถเปลี่ยนแล้วใช้งานต่อได้เลย

.

 3.ผ้าเบรก และน้ำมันเบรก

ระบบเบรกที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยรถหยุดลื่นไถลบนถนนที่เปียกในช่วงหน้าฝน โดยเริ่มจากการตรวจสอบน้ำมันเบรกว่ามีสีดำเข้มแล้วหรือไม่ ถ้ามีแล้วควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทันที และหมั่นสังเกตขณะเหยียบเบรกรถว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น

  • เบรกแล้วผ้าเบรกมีเสียงดังผิดปกติ
  • เบรกไม่อยู่หรือเบรกแล้วใช้ระยะหยุดรถที่มากกว่าปกติ

ซึ่งถ้ามีอาการดังกล่าว ควรเรียกช่างหรือนำรถเข้าศูนย์บริการทันทีที่สามารถทำได้ เนื่องจากการปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่บนท้องถนนได้

.

4.สัญญาณไฟ

ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว รวมถึงไฟตัดหมอก เป็นสิ่งสำคัญกับรถเมื่อต้องขับขี่ในบริเวณที่มืดหรือในตอนกลางคืน เพื่อให้มองเห็นทัศนวิสัยในช่วงเวลาที่ขับขี่ได้ นอกจากนี้สัญญาณไฟต่างๆ ของรถ ยังมีความจำเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก เพราะการมองเห็นในระยะไกลลดลง จึงต้องเปิดไฟเพื่อเป็นสัญญาณและให้รถคันอื่นมองเห็นรถของคุณ

ดังนั้นก่อนขับรถออกจากบ้านในหน้าฝน ควรที่จะเช็คสัญญาณไฟทุกดวงของรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน รวมทั้งทำความสะอาดคราบสกปรกต่าง ๆ ตามกรอบไฟ และหากพบไฟดวงใดที่ชำรุด ก็ควรที่จะทำการเปลี่ยนทันที

.

 5.สภาพเครื่องยนต์

ในช่วงหน้าฝนหลายคนที่มีรถอาจจะต้องอยู่บนท้องถนนนานกว่าปกติ เพราะรถมักจะติดในช่วงที่ฝนตก ดังนั้นรถจึงต้องมีสภาพเครื่องยนต์ที่พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา จึงควรตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ

เริ่มตรวจจากของเหลวต่างๆ ของเครื่องว่าอยู่ระดับที่ปกติหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น

 

  • น้ำมันเครื่อง
  • น้ำมันเกียร์
  • น้ำมันเบรก
  • น้ำมันเกียร์
  • หม้อน้ำ
  • น้ำกลั่นแบตเตอรี่

โดยสามารถตรวจเช็คได้จากก้านวัดระดับว่ายังอยู่ในระดับที่ปกติหรือไม่ รวมทั้งควรตรวจตามรอยต่อต่างๆ ของเครื่องยนต์ว่ามีรอยรั่ว ซึม อยู่หรือไม่ หากพบเห็นควรทำการซ่อมแซมทันที นอกจากนี้ควรดูบันทึกการตรวจเช็คสภาพรถ ว่ารถวิ่งถึงระยะที่ต้องเอาไปเข้าศูนย์บริการตรวจเช็คสภาพหรือยัง

6.สิ่งของจำเป็นในหน้าฝน

นอกจากภาพรถที่ต้องพร้อมใช้งานแล้ว อุปกรณ์ที่ต้องเอาติดไว้ในรถก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้คุณเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในช่วงที่ฝนตก ไม่ว่าจะเป็น

  • ร่ม
  • เสื้อกันฝน
  • สายชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือ
  • รวมไปจนถึงอุปกรณ์ซ่อมรถฉุกเฉิน เช่น สายลากรถ หากรถของคุณเกิดเสียกลางทาง

จริงๆแล้วการขับขี่ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูไหนหรือที่ใดก็ตาม นอกจากการเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางแล้ว ก็ควรที่จะเช็คสภาพผู้ขับขี่ ว่าอยู่ในสภาพที่สามารถขับขี่รถได้ปลอดภัยและพักผ่อนเพียงพอ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย
.
***แต่ถ้ายังต้องการ ความอุ่นใจตลอดการเดินทาง ก็ควรมี ประกันรถยนต์ ติดตัวไว้ในทุกการขับขี่นะคะ...อย่ากลัวที่จะปรึกษาเรา เราพร้อมยินดีให้คำแนะนำเรื่องประกันภัยให้คุณค่ะ "ให้ประกันเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับคุณ" ปรึกษาเราได้เลยนะคะ

.

 เข้าชมประกันรถยนต์หลากหลายบริษัทที่เราคัดสรร มาเพื่อคุณโดยเฉพาะ รับรองความคุ้มครองที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

 

 ประกันรถยนต์ชั้น 1  ให้ความคุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะเฉี่ยวชนสิ่งกีดขวาง หรือเฉี่ยวชนกับยานพาหนะ รวมถึงรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม 

 

 ประกันรถยนต์ชั้น2+ ซ่อมรถเขาซ่อมรถเรา ให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดการชนกับยานพาหนะทางบกและคู่กรณีจะต้องอยู่ที่เกิดเหตุ รวมถึงการคุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ (มี่แบบความคุ้มครองพิเศษคุ้มครองภัยธรรมชาติด้วย)

 

 ประกันรถยนต์ชั้น3+ ซ่อมรถเขาซ่อมรถเรา ให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดการชนกับยานพาหนะทางบกและคู่กรณีจะต้องอยู่ที่เกิดเหตุ .

 

*** สามารถตอบโจทย์เมื่อเกิดภัยได้นะคะ เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณยังไงก็อุ่นใจแน่นอน

 

 

 

Visitors: 150,797